ความอ่อนไหวของวงการกีฬา

ความอ่อนไหวในเรื่องราวความเป็นไปต่างๆนั้นก็มักจะเกิดขึ้นกับทุกแวดวงการ แต่สำหรับวงการที่ใหญ่อย่างวงการกีฬานั้นก็มีเรื่องที่อ่อนไหวหลายเรื่องที่จะสามารถทำให้นักกีฬานั้นสามารถสะท้อนความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของนักกีฬาได้

และเรื่องที่ในวงการกีฬาอ่อนไหวนั้นโดยส่วนใหญ่เมื่อสิ่งเหล่านี้นั้นเกิดการกระทำจากนักกีฬานั้นก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อตัวนักกีฬานั้นอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะถ้าหากเป็นเรื่องที่เป็นสิ่งที่สามารถะท้อนสังคมโดยตรงนั้นก็จะยิ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อนักกีฬาในด้านที่ไม่ดีดโยตรงอย่างแน่นอน สิ่งเหล่าน้จึงมักเป็นสิ่งที่นักกีฬาส่วนใหญ่นั้นเลี่ยงที่จะทำเพราะถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดจากการกระทำของนักกีฬานั้นก็จะทำให้ชื่อเสียงทางด้านวงการกีฬาของนักกีฬานั้นจบสิ้นลงได้เลยทีเดียว เรื่องเหล่านี้จึงจัดว่าเป็นเรื่องที่ออ่ไหวต่อวงการกีฬา

ปัญหาด้านการใช้ความรุนแรง พบว่าโดยส่วนใหญ่นักกีฬาหลายคนมีการใช้ความรุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นได้ในปัจจุบันและก็เกิดขึ้นในอดีต เพราะนักกีฬานั้นก็เกิดการเรียนรู้และผ่านช่วงวัยเด็กมา ทำให้ในอดีตนั้นอาจจะมีการใช้ความรุนแรง ในโรงเรียนหรือกับเพื่อนร่วมทีมเป็นต้น ทำห้สิ่งเหล่านี้นั้นเมื่อเกิดขึ้นอาจจะยังไม่ได้รู้ในเวลานั้น

แต่เมื่อนักกีฬาเริ่มมีชื่อเสียงก็มักจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีออกมาแฉนักกีฬาเหล่านี้ว่าอาจจะเคยมีการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนหรือในทีมเป็นต้น และเมื่อเรื่องราเหล่านี้ถูกเปิดเผยขึ้นและถึงแม้ว่าจะเป้นเรื่องจรองหรือเท็จก็ตาม แต่วงการกีฬานั้นก็มักจะไม่ได้มีการให้โอกาสกับคนที่มีข่าวเช่นนี้ออกมา

เพราะในเรื่องของการใช้ความรุนแรงนั้นก็เป็นสิ่งที่นักกีฬานั้นแสดงพฤติกรรมออกมาทั้งในปัจจุบันหรืออดีตออกมาอย่างไม่เหมาะสมและไม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีต่อเยาวชนหรือคนในวงการกีฬาได้ การใช้ความรุนแรงจึงจัดเป็นเรื่องที่อ่อนไหวและสามารถสูญเสียชื่อเสียงและสถานภาพทางด้านการกีฬาไปได้เลย

ยาเสพติด ถือได้ว่าเป็นเรื่อวที่มีความอ่อนไหวของวงการกีฬาไม่แพ้กับการใช้ความรุนแรงเลย เพราะว่ายาเสพติดนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและเป็นสิ่งที่อาจจะเรียกว่าอันตรายต่อร่างกายด้วย นักกีฬาโดยส่วนใหญ่มักจะใช้เพื่อเพิ่มความฟิตและอึดให้กับร่างกายในการฝึกซ้อมและแข่งขัน ทำให้ร่างกายนั้นมีคามแข็งแรงมากขึ้น

แต่แน่นอนว่ายาเสพติดนั้นเป็นสิ่งที่ให้ทาแก่ร่างกาย ถึงแม่วานักกีฬาจะสามารถใช้มันได้ แต่เมื่อมีการตรวจสุขภาะนั้นก็จะทำให้ทราบได้เลยว่า นักกีฬานั้นมีสารยาเสพติดในร่างกาย ก็อาจจะทำให้ถูกแบนหรือโดนปลดจากการเป็นนักกีฬาเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรงหรือใช้ยาเสพติดนั้นก็ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความอ่อนไหวให้กับวงการอย่างมาก เมื่อกีฬานั้นได้กระทำความผิดเหล่านี้ โดยส่วนใหญ่นั้นก็มักจะจบเส้นทางกีฬาด้วยสิ่งเหล่านี้

 

สนับสนุนโดย.    gclub

ทรยศอาชีพเพื่อเงิน

ล้มบอล ทรยศอาชีพ เพื่อเงิน 

Falling-ball

 

       ทรยศอาชีพเพื่อเงิน  การล้มบอลสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกลีกในโลก ไม่ว่าจะล้มเชิงธุรกิจ ล็อคผลการแข่งขัน หรือ ล้มปูทาง ล้มแบบโจ่งแจ้งให้เห็นกันชัดๆก็มี เพราะไม่ว่าจะยังไง พนันก็คือพนัน

        การล้มบอล ล็อคผล จะได้ผละประโยชน์เฉพาะกลุ่ม เพราะการตั้งเงื่อนไขในการล้มบอลมันมีมากมาย ทั้งรายตัว หรือเป็นกลุ่มคนในทีม

มันมีผลประโยชน์ อยู่ 2 แบบ คือ แบบตัวบุคคล เช่น นักเตะ กรรมการ ไลน์แมน  และ แบบทีม

ตัวบุคคล ก็จะเป็นเรื่องของเงินล้วน ๆ

ส่วนทีม จะเป็นเรื่องผลการแข่งขัน ที่ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ เช่น เข้ารอบทั้งคู่ถ้าเสมอกัน หรือทีมที่แข่งด้วยต้องการอีก สามลูกจะเข้าตาม ก็ดันยิงได้จริง ๆ เพื่อจูงกันไป อีกอย่างสมัยนี้เกมส์กีฬาลงทุนกันสูงโดยเฉพาะฟุตบอล ลองคิดดูว่าถ้าการล็อคผลการแข่งขันได้จะเอาเงินไปลงทุนซื้อ พัฒนานักเตะทำไม เอาเงินมายัดกรรมการ จ้างทีมตรงข้ามดีกว่า ใช้เงินน้อยกว่าอีกตั้งหาก

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจะมีทีมไหนลงทุนพัฒนานักเตะกันอีกมั๊ย ถ้าถามคนดูบอล เขาก็อยากให้แข่งกันจริงๆไม่ล้มบอลอยู่แล้ว มันสนุกกว่า เพราะมันทำให้เราได้ลุ้น ได้เชียร์ในทีมหรือนักเตะที่เรารักและชื่นชอบ ทำให้เกมส์มันดูสนุก เรายังได้มาลุ้นกันว่าทีมไหนชนะ ทีมไหนแพ้ บางทียิงกันนาทีสุดท้าย แต่ถ้าเรามารู้ว่ามีการล้มบอล เราก็คงเสียความรู้สึก คงเลิกดูกันไป สปอนเซอร์ต่างๆมันมาก็เพราะคนดูเยอะ จะได้โฆษณาบริษัทตัวเอง ถ้าคนเลิกดูสปอนเซอร์ไม่มา สโมสรไม่มีเงินจะเอาเงินจากไหน

        การล้มบอล ล็อคผลเม็ดเงินที่ให้มันสูง ก็ไม่แปลกที่เขาเหล่านั้นจะทำกัน แต่เราก็อย่าลืมว่านี่เป็นอาชีพเรา ทุกอาชีพต้องมีจรรยาบรรณ ทำแบบนี้เท่ากับเราทรยศอาชีพตัวเอง

สุดท้ายทำให้คนเสื่อม ศรัทธา ไม่มีใครอยากดูบอล เมื่อคนไม่ดู ธุรกิจวงการบอลก็ถดถอย โฆษณา ก็หายหมด  เห็นได้ชัดๆเลยว่ามันเป็นการ “ล้มทั้งระบบ”

 

ได้รับการสนับสนุนมาจาก  gclub

โจ๋ขี้ยาฆ่าชายชรา

โจ๋ขี้ยาฆ่าชายชราวัย 68 ปีทิ้งไว้กลางทุ่งนา

Killed

โจ๋ขี้ยาฆ่าชายชรา ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนหน้านี้มีเหตุฆาตกรรมายสูงอายุวัย 68 ปีถูกตีด้วยของแข็งพร้อมทั้งถูกมัดมือมัดเท้าเสียชีวิตกลางทุ่งนาซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็หาสาเหตุว่าเกิดจากสาเหตุอะไรโดยส่วนใหญ่มีการคาดการณ์ว่าผู้ลงมือก่อเหตุน่าจะเป็นคนรู้จักกับผู้เสียชีวิตโดยในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้าน  ซึ่งผู้เสียชีวิตชื่อว่าคุณไทธิเบศน้องสาวของผู้เสียชีวิตให้การกับนักข่าวว่าผู้เสียชีวิตน่าจะถูกล่อลวงออกไปนอกบ้านและมีกลุ่มคนร้ายรุมทำร้ายร่างกายส่วนอีกกลุ่มหนึ่งน่าจะมีการเข้าไปค้นข้าวของบนบ้าน

เนื่องจากว่าผู้เสียชีวิตมีการสวมใส่รองเท้าออกไปด้วยแสดงว่าไม่ได้มีการถูกทำร้ายตั้งแต่อยู่ในบ้านส่วนเข้าของบนบ้านมีการค้นกระจัดกระจายรวมถึงมีปืน หายไปและยังมีตู้เซฟที่หายไปโดยคนร้ายยกไปทั้งตู้  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ค้นหาหลักฐานเพื่อหาตัวคนร้ายสำหรับทรัพย์สินที่หายไปนั้นมีตู้เซฟ 1 ตู้ กิ๊บติดผม1 ชิ้น สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พระเลี่ยมทอง 1 องค์ เงินสดประมาณเกือบ 50,000 บาท

และยังมีปืนลูกซองอีก 1 ด้าม เป็นรายการทรัพย์สินที่หายแบบคร่าวๆที่ทำญาติพอจะทราบแต่ว่าหลายคนบอกว่าทรัพย์สินที่แน่นอนของผู้เสียชีวิตนั้นไม่มีใครรู้ว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้มีการบอกกล่าวใครเอาไว้ว่ามีการเก็บเงินไว้มากน้อยแค่ไหน สำหรับคนเสียชีวิตนั้นหลายคนบอกว่าเป็นคนใจดี แต่ชอบอยู่สันโดษ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร  ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านต่างก็สงสัยครอบครัวครอบครัวหนึ่งซึ่งลูกชายของครอบครัวนี้รู้จักกับผู้เสียชีวิตเป็นอย่างดีและที่สำคัญมีผู้เห็นเหตุการณ์บอกมาว่าในวันเกิดเหตุนั้น

ชายวัยรุ่นที่ต้องสงสัยได้ออกจากบ้านของตนเองในช่วงกลางดึกของคืนวันนั้นพอดี เมื่อนักข่าวได้ไปสอบถามแม่ของวัยรุ่นที่เป็นผู้ต้องสงสัยดังกล่าวเธอก็ให้ข้อมูลว่าในช่วงเวลาประมาณ 22:00 นลูกชายของเธอทั้ง 2 คนได้เดินทางออกไปรับพ่อที่ทำงานและกลับเข้าบ้านมาประมาณ 23:00 นหลังจากนั้นลูกชายของเธอทั้งสองคนก็พากันเดินออกจากบ้านไปอีกรอบเพื่อไปตกปลาบริเวณหลังบ้านและกลับเข้าบ้านมาประมาณตอน 03:00 นซึ่งเธอยืนยันว่าลูกชายทั้งสองคนของเธอบริสุทธิ์

โดยเธอชื่อว่าถึงแม้ลูกชายทั้งสองคนของเธอจะเคยถูกจับในคดีข้อหาเสพยาเสพติดแต่เธอเชื่อว่ารูปของเธอไม่สามารถเป็นฆาตกรฆ่าคนตายได้อย่างแน่นอนและเธอมั่นใจในความบริสุทธิ์ของลูกของเธอ โดยเธอบอกว่ารูปของเธอยังคงอยู่ในพื้นที่ไม่ได้หนีหายไปไหนและไม่ควรสงสัยลูกของเธอคนเดียวเพราะทุกคนในหมู่บ้านก็มีคนติดยาอยู่หลายคนอาจจะเป็นคนใดคนหนึ่งที่ไปก่อเหตุก็ได้ 

 

สนับสนุนโดย  gclub