สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ เกิดขึ้นในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2551 หลังจากที่ กลุ่มแนวร่วมการลงทุนอาบูดาบี (Abu Dhabi United investment group – ADUG) ได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการของ สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ ฟุตบอลคลับ
จากเจ้าของเดิมคือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร และหลังจากนั้นไม่นาน
กลุ่มแนวร่วมการลงทุนอาบูดาบี ก็แสดงศักยภาพการบริหาร ศักยภาพทางการเงิน ให้เหล่าบรรดาแฟนบอลของ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ และเหล่าสโมสรคู่แข่งใน ลีกฟุตบอลอังกฤษ ได้เห็นด้วยการดึงตัวผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลกมาร่วมทีม ในช่วงแรกนักเตะที่สร้างความฮือฮามากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ศูนย์หน้าคนสำคัญของทีมคู่แข่งร่วมลีกฟุตบอลอังกฤษ อย่าง สโมสรท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ หรือการดึงตัว โรบินโญ่ นักเตะชื่อก้องโลกชาวบราซิล
ซึ่งในขณะนั้นค้าแข้งอยู่กับ สโมสรเรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่ของโลก และยักษ์ใหญ่ประจำ ลา ลีกา ลีกฟุตบอลของประเทศสเปน และหลังจากนั้นก็ยังมีการดึงผู้เล่นระดับโลกเข้ามาอีกมากมาย แต่ถึงแม้การดำเนินงาน การลงทุนต่างๆ ของ กลุ่มแนวร่วมการลงทุนอาบูดาบี จะเป็นไปได้อย่างดี ผลักดันให้ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ ก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรระดับแนวหน้าของ ลีกฟุตบอลอังกฤษ จนสามารถทำลายชื่อเดิมอย่าง ทีมท็อปโฟร์ ที่ประกอบไปด้วย
สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(Manchester-City-Club) คู่ปรับร่วมเมือง, สโมสรลิเวอร์พูล, สโมสรเชลซี และ สโมสรอาร์เซน่อล ได้สำเร็จ
และเปลี่ยนมาเป็น ทีมท็อปซิก (ซึ่งมี ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ สอดแทรกขึ้นมาด้วยอีกหนึ่งทีม) ที่ใช้เรียกกันอยู่ในปัจจุบัน แต่กว่า สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ จะสามารถคว้า แชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จก็ต้องรอมาจนถึง ฤดูกาล 2011-2012 ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีมชาวอิตาลี ซึ่งในเวลานั้นมีนักฟุตบอลคนสำคัญอย่าง ยาย่า ตูเร่, ดาวิด ซิลบา, มารีโอ บาโลเตลลี, ซามีร์ นาสรี, คาร์ลอส เตเบซ และ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ศูนย์หน้าชาวอาร์เจนติน่า ที่เป็นกำลังหลักของทีม (ซึ่งปัจจุบัน เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ยังคงเป็นศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของทีม และสร้างผลงานที่ดีได้อย่างต่อเนื่องให้กับทีม)