ฟุตบอลในปี2019

ปีที่ผ่านมามีอะไรกันบ้างสำหรับโลกฟุตบอลในปี 2019

 

Football-2019

ฟุตบอลในปี2019 จากสำนักข่าวกีฬาคนอังกฤษที่ช่วงนี้ว่างเว้นจากการทำงานและรายงานผลกีฬาประจำวัน เนื่องจากติดสถานการณ์โควิดระบาด และทำให้ฟุตบอลอังกฤษไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ จึงทำให้นักข่าวสื่อต่างๆ ของอังกฤษรวมตัวกันรวมเรื่องราวที่เป็นสุดยอดในปี 2019 มาให้ดูกัน

เรื่องแรก นักเตะยอดเยี่ยมปี 2019 คือ เจมี่ วาร์ดี้ เพราะในปี 2019 นั้น เค้ายิงไปถึงยี่สิบเก้าประตู

เรื่องสอง ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมปี 2019 คือ คริส ไวเดอร์ กุนซือทีมดาบคู่ เชฟยูไนเต็ด ด้วยการจบฤดูกาลในแชมป์เปี้ยนชิพ ด้วยฐานะรองแชมป์ และต่อด้วยทำผลงานได้ดีในพรีเมียร์ชิพ ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก ซึ่งถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม และยิ่งกับการที่เค้าใช้นักเตะที่โนเนม แล้วทำได้ขนาดนี้ ต้องยอมรับว่ามีฝีมือจริงๆ

เรื่องสาม ทีมที่มีท่าดีทีเหลว ได้แก่ทีมอาร์เซนอล ซึ่งในปี 2019 ตอนที่ เวนเกอร์ ออกไปนั้น แล้วได้ เออไน อูไมรี่ มานั้น เหมือนจะไปได้ดี แต่สุดท้ายก็ท่าดีทีแล้ว ที่ไม่ได้อะไรติดมือมาเลย

เรื่องสี่ การซื้อขายยอดเยี่ยม ได้แก่ ยูริ เทเลม๊องส์ ที่ถือว่าเป็นการซื้อที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกในช่วงปี 2019 ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ทดลองยืมตัวจากโมนาโกมาก่อน แต่พอเอามาเล่นแล้ว ดีจนทีมเลสเตอร์ไม่สามารถที่จะรอได้ จนต้องทำลายสถิติสโมสร ซื้อนักเตะคนนี้มาด้วยค่าตัว สี่สิบล้านปอนด์

เรื่องที่ห้า ทีมน่าอับอายที่สุดประจำปี ได้แก่ทีมเซาแธมป์ตัน ที่เฝ้าบ้านแพ้ให้กับผู้มาเยือนอย่างเลสเตอร์ ถึงเก้าประตูต่อศูนย์ ซึ่งมีสถิติถึงสี่เรื่องเกิดขี้นในนัดนี้ก็คือ ทีมเลสเตอร์เป็นทีมที่สองที่ยิงได้ถึงห้าลูกในครึ่งแรก ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นทีมแมนซิตี้ ที่ยิงเบรินลีย์ได้ และมีสองแฮตทริก เกิดขึ้นในนัดนี้คือ เจมี่ วาร์ดี กับอลอนโซ่ เปเรส และ เป็นสกอร์ที่ชนะเยอะที่สุดในเกมเยือนของเลสเตอร์ และเป็นเกมที่แพ้เยอะที่สุดในการเฝ้าบ้านของเซาแธมป์ตัน

เรื่องที่หก คนที่หัวร้อนที่สุด คือ เป๊ป กวาดิโอล่า ในเกมระหว่าง ลิเวอร์พูลกับแมนซิตี้ ที่แมนฯซิตี้เสียผลประโยชน์ในเกมจากที่กรรมการไม่ให้ลูกโทษถึงสองครั้งจากการทำฟาวล์ของกองหลังลิเวอร์พูลจนทำให้แมนซิตี้ต้องแพ้ในเกมนั้นไป

ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดเป็นเรื่องราวที่ผู้สื่อข่าวอังกฤษได้รวมตัวกันมาทำโพลสำรวจให้กับแฟนบอลอังกฤษได้เข้ามาโหวตกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการแก้เซ็งได้ในระดับหนึ่งในช่วงที่ไม่มีฟุตบอลทำการแข่งขัน

 

ขอบคุณเว็บ  บาคาร่าออนไลน์  ที่ให้การสนับสนุน

เกมเอลกลาซิโก้

8 แข้งบริติชที่เคยเล่นเกมเอล กลาซิโก้

เกมเอลกลาซิโก้ 8 แข้งบริติชที่เคยเล่นเกมเอล กลาซิโก้

El-Clásico

  1. ลอรี่ คันนิ่งแฮม (เรอัล มาดริด)


เจ้าของฉายา ‘ไข่มุกดำ’ อยู่กับ เรอัล มาดริด ได้ 2 ปีครึ่ง แต่อาการบาดเจ็บทำให้เขาลงเล่นเพียง 58 นัด แต่เขาก็ยังคงส่งผลกระทบค่อนข้างมากทั้งในและนอกสนาม ด้วยตำแหน่งปีกเขาคือแข้งบริติชคนแรกที่เล่นให้กับมาดริด และเป็นเพียงผู้เล่นผิวดำคนที่สองของสโมสรที่ทำได้ 12 ประตูในฤดูกาลแรก ผลงานที่ยอดเยี่ยมในเกมที่ชนะ บาร์เซโลน่า 2-0 ในปี 1980 ทำให้เขาได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลามจากแฟนบอลที่คัมป์ นู 

  1. สตีฟ อาคิบัลด์ (บาร์เซโลน่า)

ผู้เล่นชาวสก็อตแลนด์เพียงคนเดียวที่เคยเล่นในเกมเอล กลาซิโก้จนถึงปัจจุบัน เขาย้ายมาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในปี 1984 ด้วยค่าตัว 1.15 ล้านปอนด์

เมื่อวันที่ 2 กันยายนในปีเดียวกันเขาได้กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูให้กับทีมในเกมที่ บาร์ซ่า เอาชนะ 3-0 ที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เขาเป็นดาวซัลโวของบาร์ซ่า (15 ประตู) ในฤดูกาลนั้น ช่วยให้ทีมได้แชมป์ลาลีกา โดยที่ เรอัล มาดริด จบเพียงแค่อันดับที่ 5 

  1. แกรี่ ลินิเกอร์ (บาร์เซโลน่า)


หลังจากคว้าดาวซัลโวฟุตบอลโลกปี 1986 ลินิเกอร์ก็กลายเป็นนักเตะบริติชรายที่สองบาร์ซ่า เขาย้ายมาจาก เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 2.8 ล้านปอนด์ แม้จะไม่เคยได้แชมป์ลาลีกา แต่เขาก็สามารถชูถ้วยแชมป์ โกปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส 

ลินิเกอร์ ทำได้ 5 ประตูจาก 8 นัดในเอล กลาซิโก้ และผลงานที่ดีที่สุดของเขาคือการทำแฮตทริกเมื่อปี 1987 เขายุติการค้าแข้งในสเปนด้วยการยิง 42 ประตูจาก 103 นัด เป็นนักเตะบริติชที่ทำประตูสูงสุดในลาลีกาจนกระทั่งโดน แกเร็ธ  เบล เข้ามาทำลาย

  1. มาร์ค ฮิว์จส์ (บาร์เซโลน่า)

ฮิว์จส์ น่าจะเป็นแข้งบริติชที่ประสบความสำเร็จน้อยที่สุดแล้ว อดีตดาวเตะชาวเวลส์ยิงได้เพียง 5 ประตูเท่านั้นรวมทุกรายการในฤดูกาลเดียวของเขาที่คัมป์ นู และลงสนามในกลาซิโก้เพียงครั้งเดียวที่เสมอกับ มาดริด 1-1 ที่เบร์นาเบว ปี 1986 และเขาเป็นนักเตะบริติชคนสุดท้ายที่เล่นให้บาร์ซ่า

  1. สตีฟ แม็คมานามาน (เรอัล มาดริด)

แข้งชาวอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสเปน แม็คมานามานย้ายเข้าร่วมทีมมาดริดแบบไร้ค่าตัวในปี 1999 ได้ถึง 6 แชมป์จาก 4 ฤดูกาล ซึ่งรวมถึงแชมเปี้ยนลีก 2 สมัย และเขาทำประตูในรอบชิงชนะเลิศปี 2000 อีกด้วย แม็คมานามาน ลงเล่นในกลาซิโก้ 7 นัด ยิงได้ 1 ประตูในเกมที่ชนะ 2-0 ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ ในปี 2002 

  1. เดวิด เบ็คแฮม (เรอัล มาดริด)

เบ็คแฮม เป็นการย้ายทีมที่ประสบความสำเร็จในด้านการตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผู้เล่นชาวอังกฤษที่ค้าแข้งต่างแดน เขาได้แชมป์ลีกเพียงสมัยเดียวเท่านั้นในรอบ 4 ปี ก่อนจะย้ายไป แอลเอ กาแล็กซี่ ในปี 2017 เขาลงเล่นในกลาซิโก้ 8 นัด แม้ยิงไม่ได้ แต่เขาทำได้ 2 แอสซิสต์

  1. ไมเคิ่ล โอเว่น (เรอัล มาดริด)

เจ้าของบัลลงดอร์ในวัย 21 ปี ย้ายมาร่วมทีม เรอัล มาดริด ในปี 2004 แต่เขาไม่อาจประสบความสำเร็จเหมือนอย่าง แม็คมานามาน ได้ที่เคยผ่านการค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล
แม้จะไม่ได้แชมป์เลยในปีเดียวของเขาที่สเปน แต่โอเว่นยิงได้ 16 ประตูจาก 45 นัดให้กับราชันชุดขาว เขาไม่อาจเบียดแย่งสองคู่หูในแดนหน้าอย่าง โรนัลโด้ และ ราอูล ได้ แต่ไฮไลต์สำคัญในกลาซิโก้คือเกมที่เขายิงให้ทีมชนะด้วยสกอร์ 4-2 ในเดือนเมษายน 2005

  1. แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด)

คนล่าสุดและเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จที่สุดสำหรับแข้งบริติชในศึกเอล กลาซิโก้ เขาย้ายมาด้วยค่าตัวสูงถึง 80 ล้านปอนด์ในปี 2013 แต่เขาเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บ เช่นเดียวกับทักษะภาษาสเปน รวมทั้งเจอกับเสียงวิจารณ์จากสื่อและแฟนบอลสเปนด้วยกับความมุ่งมั่นของเขาในสนาม จนถูกตั้งฉายาเป็นนักกอล์ฟเพราะความสนใจด้านกีฬานี้เป็นพิเศษ แต่เขาก็ยังฝากผลงานถึง 105 ประตูจาก 250 นัด เช่นเดียวกับแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย และ ลาลีกา 1 สมัย เกมเอลกลาซิโก้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  บาคาร่าออนไลน์