แผนการเล่นยอดนิยมในวงการฟุตบอล

แผนการเล่นยอดนิยมในวงการฟุตบอล ( 4 – 4 – 2 )

แผนการเล่นยอดนิยมในวงการฟุตบอล 4 – 4 – 2 : ถ้าเป็นคนที่ดูฟุตบอลจริงๆ เป็นแฟนพันธุ์แท้ฟุตบอล มีฟุตบอลอยู่ในสายเลือด รับรองว่าไม่มีใครไม่รู้จักระบบ 4 – 4 – 2 แน่นอน เพราะถือเป็นระบบเก่าแก่ที่สุดในโลกของฟุตบอล และยังมีใช้มาจนถึงปัจจุบัน

ซึ่งทุกวันระบบนี้อาจมีการเปลี่ยนรูปแบบไปบ้าง หรือพัฒนาเป็นระบบใหม่ๆ

แผนการเล่นยอดนิยมในวงการฟุตบอล  แต่ไม่ว่าจะยังไงพื้นฐานก็มาจาก 4 – 4 – 2 เพราะระบบ 4 – 4 – 2 เป็นแผนการเล่นที่ง่านต่อความเข้าใจ แต่มีประสิทธิภาพสูง ระบบ 4 – 4 – 2 หัวใจสำคัญอยู่ที่กองกลาง เพราะกองกลางของทีมจะต้องทำหน้าที่ช่วยทั้งเกมส์รุกและเกมส์รับ โดยพื้นฐาน จะมีผู้เล่นกองกลาง 1 คน ที่ทำหน้าที่เล่นรับเป็นหลัก หรือเรียกว่าตำแหน่ง DMF กระเถิบขึ้นมาอีกนิด

จะเป็นผู้กองกลางด้านกว้างทั้ง 2 ข้าง RMF, LMF มีหน้าที่เติมเกมส์บุกไปทางด้านซ้ายและขวา เพื่อเปิดบอลให้ศูนย์หน้า และจะคอยวิ่งลงมาช่วยแบ็คทั้ง 2 ข้างเล่นเกมส์รับด้วย เรียกได้ว่าต้องรักษาพื้นที่ด้านข้างทั้งหมดตั้งแต่หน้าจรดท้าย กองกลางอีก 1 ตัว จะทำหน้าที่เล่นเกมส์รุก AMF คอยสนับสนุนศูนย์หน้าอยู่ด้านหลัง และหน้าที่สำคัญอีกอย่างคือผู้เล่นในตำแหน่งนี้จะเป็นศูนย์กลางที่คอยผ่านบอลให้กับเพื่อนๆ รอบตัวFootball-plan

 

 

เพราะฉะนั้นนักเตะที่เล่นตำแหน่งส่วมมากมักจะได้เบอร์ 10 และจะต้องเป็นคนที่มีทักษะในการจ่ายบอลที่ดีมากๆ ทีมที่มักจะใช้ระบบ 4 – 4 – 2 อย่างในอดีตที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ เอซี มิลาน ในยุค 1987 – 1991 และถือว่าเป็นทีมที่ใช้ระบบนี้แล้วประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะทีมทำผลงานได้ดีมากๆ ในช่วงที่ใช้ระบบนี้อยู่ ในปัจจุบัน ทีมระดับแนวหน้าของโลกที่ใช้ระบบนี้อยู่ ได้แก่ แอตเลติโก มาดริด ทีมระดับแชมป์ลีก ลา ลีกา สเปน, โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค จอมแกร่งในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน หรือแม้กระทั่ง เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ใช้แผนจนสามารถพาทีมผงาดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ได้สำเร็จ

จุดแข็งที่เห็นได้ชัดเจนของระบบ 4 – 4 – 2 คือการที่มีผู้เล่นศูนย์หน้าถึง 2 คน

ทำให้ผู้เล่นกองกลางสามารถผ่านบอลได้ง่าย และใช้เวลาน้อยในการครองบอล อีกประการคือกองกลางด้านกว้างทั้ง 2 คนที่ทำหน้าช่วยทั้งเกมส์รุกเกมส์รับทำให้สมดุลของเกมส์ค่อนข้างดี และระบบนี้ยังมีการเคลื่อนที่ที่เข้าใจง่ายอีกด้วย ส่วนจุดอ่อนก็คือ เมื่อแผนการเล่นเข้าใจง่าย มีการเคลื่อนที่ที่เข้าใจง่าย ก็มักจะถูกดักทางได้ง่ายเช่นเดียวกัน

กีฬาฟุตบอล

ประโยชน์กีฬาฟุตบอล ที่ทำให้ห่างไกลโรคภัย

กีฬาฟุตบอล เล่นฟุตบอล 15 นาที ลดพลังงานสะสมได้ 200 กิโลแคลอรี

          FIFA ทดลองพบว่าการเล่น Football ในร่มนาน 30 นาที 90 เปอร์เซ็นต์ของการเล่น (เท่ากับ 27 นาที) ระดับการทำงานของหัวใจจะเพิ่มขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีผลต่อหัวใจ ปอด และการไหลเวียนโลหิตดีพอ ๆ กับการออกกำลังกายอื่น ๆ ที่สำคัญ ไม่ว่าใครจะเล่นตำแหน่งใด ทุก ๆ 15 นาที สามารถใช้พลังงานออกไปประมาณ 110-200 กิโลแคลอรี ซึ่งดีพอ ๆ กับการวิ่งจ๊อกกิ้ง และการเล่นสกี และดีกว่าผู้ที่เล่นกีฬาเทนนิส

เล่นฟุตบอลเยียวยา 5 โรคร้าย

          การเล่นฟุตบอลมีประโยชน์ในการรักษาโรคมากมาย เช่น มีหลักฐานแน่ชัดว่า ผู้ป่วยโรคหืดหอบจะดีขึ้นได้จากการออกกำลังกาย

          โรคเบาหวาน มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ใช้วิธีการควบคุมอาหาร ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ระดับน้ำตาลลงมาสู่ปกติ จนไม่ต้องฉีดยาอินซูลิน หรือกินยาลดระดับน้ำตาลหรือถ้าต้องใช้ก็เป็นจำนวนที่น้อยลง

          โรคความดันโลหิตสูง การออกกำลังกายจะช่วยให้หลอดเลือดแดงมีความยืดหยุ่นดีขึ้น ความดันโลหิตลดลงได้

          โรคถุงลมโป่งพอง เหนื่อยง่าย การออกกำลังกาย ช่วยให้การทำงานของระบบหัวใจ การไหลเวียนโลหิต และระบบการหายใจดีขึ้น

          โรคไขมันในเลือดสูง การออกกำลังกายจะช่วยลดปริมาณไขมันตัวเลว (LDL) และเพิ่มปริมาณไขมันตัวดี (HDL) ให้มากขึ้น

เล่นฟุตบอลป้องกันโรคกระดูกพรุน

          การออกกำลังกายจะทำให้มีการยืดหดของกล้ามเนื้อ ต่างกับคนที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวร่างกาย อย่างเช่น ผู้ที่เป็นอัมพาตซึ่งจะทำให้กระดูกบางลงเรื่อย ๆ

Footballกีฬาฟุตบอล ป้องกันโรคหัวใจและสมองขาดเลือด

        เพราะหลอดเลือดในผู้ที่ออกกำลังกายจะมีความยืดหยุ่นดี มีโอกาสเกิดหลอดเลือดแข็งตีบตันได้น้อย ไขมันในเลือดก็ลดลงด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่ตีบตัน โอกาสที่จะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด สมองขาดเลือด หรือ Stroke หรือการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตทั้งหมดจะลดน้อยลง

 

เล่นฟุตบอลป้องกันโรคความดันโลหิตสูง

          เพราะหลอดเลือดแดงไม่ตีบตันง่าย ยืดหยุ่นได้ดี ไม่แข็งตัวไปตามอายุที่มากขึ้น เวลาหัวใจเต้นบีบตัวส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ก็จะไม่มีแรงต้านกลับมาก ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคความดันโลหิตสูง


เล่นฟุตบอลป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และเต้านม


          มีหลักฐานเชื่อได้ว่า ในผู้ที่มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะพบสถิติการเกิดมะเร็งเหล่านี้น้อยกว่ากลุ่มผู้ไม่ออกกำลังกาย

เล่นฟุตบอลป้องกันโรคซึมเศร้า อ่อนเพลียง่าย
เพราะกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น จะทำให้สุขภาพกายโดยรวมดีขึ้นออกกำลังกายมีฮอร์โมนหลั่งออกมา ทำให้สมองปลอดโปร่งร่างกายมีความสุขมากขึ้น

เล่นฟุตบอลป้องกันโรคอ้วน

  การเล่นฟุตบอลจะทำให้ไขมันส่วนเกินลดลง การออกกำลังกายโดยใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ช่วยกำจัดไขมันออกจากส่วนเกินบริเวณรอบ ๆ เอว

สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้

สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ

สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ เกิดขึ้นในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2551 หลังจากที่ กลุ่มแนวร่วมการลงทุนอาบูดาบี (Abu Dhabi United investment group – ADUG) ได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการของ สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ ฟุตบอลคลับ

Manchester-City-Club

จากเจ้าของเดิมคือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร และหลังจากนั้นไม่นาน

กลุ่มแนวร่วมการลงทุนอาบูดาบี ก็แสดงศักยภาพการบริหาร ศักยภาพทางการเงิน ให้เหล่าบรรดาแฟนบอลของ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ และเหล่าสโมสรคู่แข่งใน ลีกฟุตบอลอังกฤษ ได้เห็นด้วยการดึงตัวผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลกมาร่วมทีม ในช่วงแรกนักเตะที่สร้างความฮือฮามากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ศูนย์หน้าคนสำคัญของทีมคู่แข่งร่วมลีกฟุตบอลอังกฤษ อย่าง สโมสรท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ หรือการดึงตัว โรบินโญ่ นักเตะชื่อก้องโลกชาวบราซิล

ซึ่งในขณะนั้นค้าแข้งอยู่กับ สโมสรเรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่ของโลก และยักษ์ใหญ่ประจำ ลา ลีกา ลีกฟุตบอลของประเทศสเปน และหลังจากนั้นก็ยังมีการดึงผู้เล่นระดับโลกเข้ามาอีกมากมาย แต่ถึงแม้การดำเนินงาน การลงทุนต่างๆ ของ กลุ่มแนวร่วมการลงทุนอาบูดาบี จะเป็นไปได้อย่างดี ผลักดันให้ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ ก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรระดับแนวหน้าของ ลีกฟุตบอลอังกฤษ จนสามารถทำลายชื่อเดิมอย่าง ทีมท็อปโฟร์ ที่ประกอบไปด้วย

สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(Manchester-City-Club) คู่ปรับร่วมเมือง, สโมสรลิเวอร์พูล, สโมสรเชลซี และ สโมสรอาร์เซน่อล ได้สำเร็จ

และเปลี่ยนมาเป็น ทีมท็อปซิก (ซึ่งมี ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ สอดแทรกขึ้นมาด้วยอีกหนึ่งทีม) ที่ใช้เรียกกันอยู่ในปัจจุบัน แต่กว่า สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ จะสามารถคว้า แชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จก็ต้องรอมาจนถึง ฤดูกาล 2011-2012 ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีมชาวอิตาลี ซึ่งในเวลานั้นมีนักฟุตบอลคนสำคัญอย่าง ยาย่า ตูเร่, ดาวิด ซิลบา, มารีโอ บาโลเตลลี, ซามีร์ นาสรี, คาร์ลอส เตเบซ และ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ศูนย์หน้าชาวอาร์เจนติน่า ที่เป็นกำลังหลักของทีม (ซึ่งปัจจุบัน เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ยังคงเป็นศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของทีม และสร้างผลงานที่ดีได้อย่างต่อเนื่องให้กับทีม)